บรูโน่ เฟอร์นานเดส ผู้ปฏิวัติทัพ ปีศาจแดง

มันเป็นเหตุการณ์ในห้องแต่งตัวที่สนามกูดิสัน ปาร์ค ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ บุกไปเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ในเกมลีกเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่ง บรูโน่ เฟอร์นานเดส กองกลางทีมชาติโปรตุเกส แสดงให้ โอเล่ กุนาร์ โซลชาร์ กุนซือชาวนอร์เวย์ และสตาฟฟ์โค้ชคนอื่นๆได้เห็นว่า เขามีความเหมาะสมที่จะเป็นกำลังสำคัญในการปฏิวัติแมนยูยุคใหม่ ในเกมกับเอฟเวอร์ตัน เฟอร์นานเดส ซึ่งย้ายมาจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน ทีมดังในลีกโปรตุเกส มาเล่นกับ แมนยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 47 ล้านปอนด์ เมื่อตลาดนักเตะเดือนมกราคมที่ผ่ามานั้น เป็นคนซัดประตูตีเสมอให้กับแมนยู หลังสิ้นเสียงนักหวีดสุดท้ายที่สนาม กูดิสัน ปาร์ค แฟนบอลแมนยูไนเต็ด นับพันคนที่เดินทางมาจากเมืองแมนเชสเตอร์ดูท่าจะพอใจ และมีความสุขกับฟอร์มของ เฟอร์นานเดส ที่เป็นคนยิงประตูพาพลพรรคแมนยูบุกมาแบ่งแต้ม เอฟเวอร์ตันภาย ใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ โค้ชชาวอิตาเลียน ได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตาม การทำได้แค่เสมอกับเอฟเวอร์ตัน มันยังไม่ดีพอสำหรับ เฟอร์นานเดส โดยดาวเตะวัย 25 ปี ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า เพื่อนร่วมทีมของเขาควรจะบุกให้มากกว่านี้เพื่อคว้าชัยชนะกลับออกไป ซึ่งมันเป็นทัศนคติที่ โซลชาร์ กำลังพยายามพัฒนาในทีม แมนยูไนเต็ดโฉมใหม่ของเขา เฟอร์นานเดสแสดงให้เห็นว่า การเสมอนอกบ้านนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่น่าดีใจสำหรับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างแมนยูไนเต็ด ซึ่งมันคล้ายกับตอนที่ ไมเคิ่ล คาร์ริค อดีตกองกลางชาวอังกฤษ ที่ย้ายมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็ฮทสเปอร์ ไปร่วมทีมแมนยูเมื่อปี 2006 ให้สัมภาษณ์ในช่วงแรกที่เขาได้ลงสนาม ขณะเดียวกัน ทีมงานสรรหานักเตะของแมนยูไนเต็ด รับรู้ถึงความสามารถของเฟอร์นานเดส มาระยะหนึ่งแล้ว โดยฮาเวียร์ ริบัลตา อดีตหัวหน้าแมวมองของแมนยูติดตามฟอร์มของ ดาวเตะโปรตุกีส มาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว

ในช่วงที่ผ่านมา เฟอร์นานเดส โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดให้กับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน อย่างต่อเนื่อง และเมื่อฤดูกาลที่แล้ว มิดฟิลด์ทัพ “ฝอยทอง” ระเบิดผลงานด้วยการซัดไปถึง 33 ประตูจาก 53 เกม รวมทุกรายการให้กับอดีตต้นสังกัดเก่าของเขาก่อนจะย้ายมายัง แมนฯยูไนเต็ด เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ในตลาดนักเตะยุคปัจจุบันนั้น มันเป็นเรื่องยากที่จะทำให้การเจรจาต่างๆบรรลุผลสำเร็จ โดย โซลชาร์ รู้สึกกระตือรือร้นอย่างมากที่จะเซ็นสัญญากับ เฟอร์นานเดส ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงการเจรจาขั้นสุดท้ายแมนยูไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ได้ จากรายงานของบรรดาสื่อมวลชนในโปรตุเกส พวกเขาเชื่อว่า การเจรจาที่ยืดเยื้อถูก สปอร์ติ้ง ลิสบอน กำหนดมาเพื่อสร้างแรงกดดันให้กับสโมสรที่อยากได้ตัว เฟอร์นานเดส โดยทีมอย่าง สเปอร์ส ก็เกือบจะได้ตัวกองกลางวัย 25 ปี ไปเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเต็มทีแล้ว แต่สุดท้ายทั้ง 2 ฝ่ายก็ตกลงเรื่องค่าตัวกันไม่ได้ 

ขณะเดียวกัน แม้กระทั่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทีมบอร์ดบริหารของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ก็เดินทางมาพบกับ เอ็ด วู้ดเวิร์ด และ แมต จัดจ์ ทีมผู้บริหารของ แมนยูไนเต็ด ที่สำนักงานของสโมสรแมนยูไนเต็ดในกรุงลอนดอน และทำให้ชัดเจนว่า พวกเขาจะไม่ยอมรับข้อเสนอที่น้อยกว่า 65 ล้านยูโร และมีออฟชั่นเพิ่มเติมอีก 15 ล้านยูโร นอกจากนี้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยังขอตัว 1 ใน 2 ผู้เล่นของ แมนฯยูไนเต็ด อย่าง อันเดรส เปร์เรร่า กองกลางชาวบราซิล หรือ มาร์กอส โรโฮ กองหลังชาวอาร์เจนไตน์ ไปเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาในการคว้าตัว เฟอร์นานเดส ด้วย แต่สุดท้ายข้อเสนอดังกล่าวถูกทางฝั่งแมนยูตอบปฏิเสธ ข้อสรุปเรื่องเฟอร์นานเดส ยังไม่บรรลุผลจนถึง 4 วันก่อนเดดไลน์ ซึ่งแมนยูไนเต็ด อาจต้องจ่ายเงินมหาศาลถึง 80 ล้านยูโร หากดาวเตะเลือดฝอยทอง มีชื่อลุ้นคว้าบัลลงดอร์ในอนาคต และในสถานการณ์นั้น วู้ดเวิร์ด และโซลชาร์ ต่างก็พิจารณาอย่างหนัก 

ในเวลาต่อมา เมื่อมีข่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ เฟอร์นานเดส จะย้ายมาเล่นกับ แมนฯยูไนเต็ด นั้น โซลชาร์ ที่ยังไม่รู้จัก อดีตกัปตันทีม สปอร์ติ้ง ลิสบอน ดีนัก ก็ถาม ดิเอโก ดาโลต์ แบ็คขวาเพื่อนร่วมทีมชาติโปรตุเกส และได้รับคำตอบว่า เขาเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในแดนฝอยทอง มันเป็นคำตอบมาตรฐาน ต้องใช้เวลาฝึกซ้อมหนึ่งวันก่อนที่จะเปิดตัวกับ เฟอร์นานเดส ลงสนามเป็นนัดแรกเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อให้พวกเขาเข้าใจสิ่งที่ ดาโลต์ พูดถึง โดยอดีตแข้ง สปอร์ติ้ง ลิสบอน แสดงให้เห็นความมั่นใจของเขาในการครองบอลแม้ในวันของเขากับ แมนยูไนเต็ด ก็ตาม 

โซลชาร์ กล่าวถึง เฟอร์นานเดส กับ “อีเอสพีเอน” สื่อกีฬาชั้นนำว่า “ผมเห็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในสนาม และความเป็นผู้นำของเขานั้นสุดยอดมาก ถ้าคุณทำงานอย่างขยันขันแข็ง และได้พูดคุยกับคนที่มีบุคลิกภาพแบบเขา คุณก็อาจาจะะได้รับอิทธิพลนี้ แต่คุณไม่สามารถมั่นใจได้ 100% หรอก เพราะผู้เล่นบางคนใช้เวลา 6 เดือนเพื่อปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ แต่สำหรับเขามันแตกต่างออกไป เขาเข้ามาร่วมทีมเรา เพราะเขามีคุณภาพ เขาสนุกกับมัน เขาชอบอยู่รอบๆ เพื่อช่วยเหลือทุกคน คุณจะได้รับการสนับสนุนจากเขา และเขาดูโดดเด่นมาก” นายใหญ่ “ปีศาจแดง” กล่าว

ขณะเดียวกัน โซลชาร์ยังกระตือรือร้นที่จะเซ็นสัญญากับ แฮร์รี่ แมกไกวร์ กองหลังทีมชาติอังกฤษ มาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา เนื่องจาก ปราการหลังวัย 27 ปี จะเข้ามาเป็นผู้นำให้กับบรรดาแข้งดาวรุ่งของ แมนยูไนเต็ด ในสนามได้ เฟอร์นานเดส โชว์ฟอร์มให้กับ แมนยูไนเต็ด ได้อย่างสม่ำเสมอ นับตั้งแต่เกมแรกที่เขาได้ลงสนามในนัดที่ทีมเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด เสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส 0-0 และจนถึงเวลานี้ เขายังคงรักษาระดับการเล่นไว้ได้เป็นอย่างดี ย้อนกลับไปในเกมที่ แมนยูไนเต็ด เอาชนะ วัตฟอร์ด 3-0 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น เฟอร์นานเดส ถูกเปลี่ยนตัวออก และได้รับคำสั่งจาก โซลชาร์ ให้เข้าไปในห้องแต่งตัวก่อนเพื่อพักผ่อน แต่มิดฟิลด์โปรตุเกส เลือกจะนั่งอยู่บนมานั่งสำรองข้างสนามต่อไปเพื่อที่เขาจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับทีมใหม่ของตัวเอง 

ขณะเดียวกัน ความฉลาด และความรู้ด้านแท็คติคของ เฟอร์นานเดส ได้ถูกนำไปใช้เป็นประโยชน์ โดยโซลชาร์ ได้ขอให้เขาทำรายงานเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ในศึกยูโรปา ลีก ของ แมนฯยูไนเต็ด อย่าง ลินซ์ ซึ่งเคยเล่นกับ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว มันเร็วเกินไปที่จะรู้ว่า เฟอร์นานเดส จะเป็นอย่างไรสำหรับ แมนฯยูไนเต็ด ในระยะยาว แต่ในเดือนที่ผ่านมา เขาได้เปลี่ยนทีมนี้ไปแล้วอย่างสิ้นเชิง สิ่งที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่รอบตัวของเขา และพลังงานรอบ ๆ ทีมกำลังกลับมา แม้ในช่วงแรกนี้เขายังต้องมีความรับผิดชอบมากมายบนไหล่ของเขาก็ตาม ในเกมลีกเพียง 4 นัดที่ผ่านมา เฟอร์นานเดส มีโอกาสสับไกยิงถึง 16 ครั้ง การสร้างสรรค์เกม และประตูจากแดนกลางคือ สิ่งที่ แมนฯยูไนเต็ด ขาดหายไปในช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา และสำหรับ โซลชาร์ อิทธิพลของ เฟอร์นานเดส นั้น อาจมีค่ามากกว่านี้อีก